INCOTERM 2010 (International Commercial Terms) EXW (Ex Works) ผู้ขายส่งมอบของให้แก่ผู้ซื้อ ณ ที่ทำการของผู้ขาย เช่น โรงงาน หรือโรงพักสินค้า ฯลฯ โดย ผู้ซื้อรับภาระในการดำเนินการและค่าใช้จ่ายรวมทั้งความเสี่ยงหลังจากการส่งมอบของแล้ว เช่น การขนของขึ้นยานพาหนะ การปฏิบัติพิธีการขาออก เป็นต้น FCA (Free Carrier) ผู้ขายต้องดำเนินการพิธีการขาออกจนเสร็จสิ้น แล้วส่งมอบของให้อยู่ในความรับผิดชอบของผู้รับขนส่ง ณ สถานที่ส่งมอบซึ่งผู้ซื้อเป็นผู้กำหนดไว้ FAS (Free Alongside Ship) ผู้ขายมีภาระรับผิดชอบต้องขนส่งของมาวางไว้ข้างเรือ เช่น บนหน้าท่า หรือในเรือลำเลียงหรือลงเรือลำเลียงเทียบข้างเรือ ณ ท่าที่ส่งออกที่ระบุไว้ โดยผู้ซื้อเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมทั้งความเสี่ยงต่อความเสียหาย หรือสูญหายที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ข้อตกลงนี้ใช้กับการขนส่งทางทะเลหรือทางน้ำในแผ่นดินเท่านั้น FOB (Free on Board) ผู้ขายมีภาระรับผิดชอบต้องส่งมอบของลงเรือ ณ ท่าส่งออกที่ได้ระบุไว้ ส่วนผู้ซื้อจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมทั้งความเสี่ยงต่อความเสียห
บทความ
กำลังแสดงโพสต์จาก กันยายน, 2018
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
กระบวนการนำเข้าและส่งออกและเงื่อนไขทางการค้าระหว่างประเทศ กระบวนการนำเข้าและส่งออกจะเกี่ยวข้องกับผู้ซื้อในฐานะผู้นำเข้า และผู้ขายหรือผู้ส่งออกโดยการจัดส่งขาเข้าสามารถดำเนินการได้ผ่านผู้รับขนส่งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ และการขนส่งหลายรูปแบบ โดยจะเกี่ยวข้องกับธนาคารผู้ออกจดหมายรับรองเครดิต (Issuing Bank) ซึ่งผู้นำเข้าจะต้องดำเนินการโดยส่งเอกสารไปยังผู้ซื้อ ซึ่งต้องมีการประสานงานและติดขอขึ้นเงิน หรือทำธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ ก่อนที่ผู้ส่งออกจะส่งสินค้าออกผ่านผู้รับส่งในทุกวิธีการขนส่งรวมถึงทางบก ทางเรือ ทางอากาศ และการขนส่งหลายรูปแบบ ซึ่งการนำเข้าและส่งออกจะเกี่ยวข้องกับเงื่อนไขทางการค้า (INCOTERMS) เพื่อกำหนดราคาสินค้า เงื่อนไขประกันภัย ตำแหน่งที่ส่งมอบสินค้า และพิธีการศุลกากร เงื่อนไขทางการค้าระหว่างประเทศ INCOTERMS (International Commercial Term) เป็นข้อกำหนดการมอบสินค้า (Term of Shipment) ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายที่เป็นสากล ซึ่งกำหนดขึ้นโดยสภาหอการค้านานาชาติ (International Chamber of Commercial) INCOTERMS 1990 เป็นฉบับที่ประกาศใช้ในปี ค.ศ.2000 เพื่อให้คู่ค้าแต่ละฝ
Warehouse Management
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
Warehouse Management การจัดการคลังสินค้า องค์กรที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์มีความจำเป็นที่ต้องมีคลังสินค้า เพราะธุรกิจเปลี่ยนแปลงได้ตามความต้องการตลาดตามสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นหรือเลวลง หรือในขณะที่ตลาดมีความต้องการทางสินค้าสูง เกิดคู่แข่งขึ้นที่สามารถสร้างความต้องการของผู้บริโภคเกิดการเปลี่ยนแปลงจากสินค้าที่เคยเป็นผู้นำตลาดลดลงอย่างรวดเร็ว หรือกรณีที่เกิดภัยทางธรรมชาติกระทบกระเทือนต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้บริโภค ในกรณีที่ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าสูงขึ้นเกินกำลังการผลิต ผู้ผลิตสามารถนำสินค้าที่เก็บไว้ในคลังสินค้ามาบริการลูกค้าเพื่อไม่ให้สินค้าขาดตลาดได้ และสาเหตุต่างๆเหล่านี้จึงเกิดคลังสินค้าที่ต้องจัดให้เหมาะสมกับธุรกิจที่มีอยู่ คลังสินค้า ( Warehouse ) มีรูปแบบการบริการอยู่สองกลุ่ม คือกลุ่มคลังสินค้าทั่วไปมีหน้าที่ในการจัดเก็บสินค้า ( Warehousing ) และรูปแบบที่เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้า ( Distribution Center : DC ) หน้าที่ของระบบคลังสินค้า 1. หน้าที่เก็บรักษาสินค้า ( Holding ) 2. ที่รวบรวม
Forecasting การพยากรณ์
- รับลิงก์
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
Forecasting การพยากรณ์ การพยากรณ์คือการทำนายเหตุการณ์ในอนาคตเพื่อการวางแผนธุรกิจ ผู้บริหารต้องการข้อมูลที่ถูกต้องในการพยากรณ์ เพื่อความสำเร็จ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของการค้าไร้พรมแดน และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ล้วนเป็นจุดที่ก่อให้เกิดความต้องการการพยากรณ์ที่แม้นยำ การพยากรณ์ที่ดีช่วยประมาณความต้องการของทรัพยากรที่ใช้อย่างถูกต้อง เช่นสามารถนำมาใช้ในการลดระดับสินค้าคงคลัง หรือการจัดระดับการจำหน่ายในช่วงเวลาต่างๆในแต่ละวันไม่เท่ากัน ช่วงเวลาในการพยากรณ์จะประกอบไปด้วย 1. ระยะสั้น ระยะเวลา 0-3 เดือน ไม่เกิน 3เดือน 2. ระยะกลาง ระยะเวลาจาก 3เดือน-2ปี 3. ระยะยาว ระยะเวลาจาก 2ปีขึ้นไป การพยากรณ์มี 2 แบบ 1. การพยากรณ์เชิงปริมาณ (Quantitative Method) ได้มาจากตัวแบบคณิตศาสตร์ใช้ตัวเลขสถิติมาเป็นฐานในการคำนวณ 2. การพยากรณ์เชิงคุณภาพ (Qualitative Method) ใช้ในการตัดสินใจกลุ่มของผู้ทำงานหรือประสบการณ์ของผู้บริหาร การพยากรณ์แบบอนุกรมเวลา การพยากรณ์แบบอนุกรมเวล